PageView Facebook
คู่มือการใช้งานโปรแกรม

ให้คุณได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นระบบ

การคำนวณ และการทำจ่ายภาษี

การยื่นภาษี เป็นข้อกำหนดในกฎหมายสรรพากร ว่าด้วยประชาชนคนไทยจำเป็นมีการยื่นภาษีแสดงรายได้ของบุคคลนั้นๆ ถ้าใครอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องจ่ายภาษีแล้วนั้น ภาษีเหล่านี้จะถูกนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ต่อไป โดยเป็นการแสดงรายได้ของตนที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา และจะยื่นภาษีประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ช่วง 1 มกราคม – 31 มีนาคมของทุกปี (หากยื่นออนไลน์ของกรมสรรพากร จะขยายเวลายื่นได้ถึง 8 เมษายนของทุกปี)


สามารถตั้งค่าประเภทการคิดภาษีของพนักงานได้ที่หน้า ข้อมูลพนักงาน และ ระบบมีรายงานที่รองรับการยื่นภาษี 3 รูปแบบ คือ

  • ภาษีประจำเดือน (ภงด.1)
  • ภาษีประจำปี (ภงด.1ก)
  • ภาษี ณ ที่จ่าย (ภงด.3)

อีกทั้งระบบยังสามารถดาวน์โหลดไฟล์ Text เพื่อทำการแปลงไฟล์ในโปรแกรม RD Prep เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการอัพโหลดขึ้นเว็บไซต์ของสรรพากร


ความหมายของภาษีแต่ละประเภท

  • ไม่คิดภาษี คือ ตั้งค่าพนักงานไม่มีการคิดภาษี
  • คิดภาษีใหม่ทุกเดือน คือ การคิดเงินภาษีแบบอัตราก้าวหน้า
  • คิดภาษีคงที่ทุกเดือน คือ การกำหนดยอดภาษีที่ต้องเสีย โดยจะไม่เปลี่ยนตามการขึ้น-ลง ของฐานรายได้ที่เกิดขึ้น
  • คิดภาษีเป็น % ของรายได้ คือ การกำหนด % ภาษีที่ต้องเสีย โดยคิดจากผลรวมของรายได้
  • คิดภาษี ภงด.1 ใหม่ทุกเดือน เป็นรายได้ 40(2) คือ การคิดภาษีโดยการประมาณการยอดอนาคตให้คิดในรอบปัจจุบัน
  • คิดภาษี ภงด.3 รวมเงินเดือน คือ การคิดเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่มีการนำเงินเดือนและรายรับรายจ่ายมาคำนวณภาษี
  • คิดภาษี ภงด.3 ไม่รวมเงินเดือน คือ การคิดเงินภาษีหัก ณ ที่จ่าย ที่เป็นการนำเฉพาะรายรับรายจ่ายมาคำนวณภาษี


ความหมายของรายงานภาษีแต่ละประเภท

  • รายงานภาษีประจำเดือน (ภงด.1)

คือ แบบภาษีสำหรับแจ้งข้อมูลการจ่ายเงินได้ของ พนักงานประจำ หรือการจ้างงาน เช่น เงินเดือน, โบนัส, ค่าคอมมิชชั่น, ค่าตำแหน่ง หรือค่าจ้างงาน เป็นต้น สำหรับช่วงเวลาทั้งเดือน โดยผู้จ่ายเงิน (นายจ้าง) ต้องเป็นคนยื่น โดยสามารถยื่นได้ ไม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป แต่หากยื่น ออนไลน์สามารถยื่นได้ไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนถัดไป



  • รายงานภาษีประจำปี (ภงด.1ก)

คือ ใบสรุปการยื่นภาษีเงินได้สำหรับการจ้างงานสำหรับช่วงเวลาทั้งปี ที่จะแสดงเงินได้ของลูกจ้าง เช่น เงินเดือน, โบนัส, ค่าคอมมิชชั่นต่าง ๆ หรือค่าจ้างงาน เป็นต้น และในแบบนี้จะแสดงจำนวนภาษีเงินได้ที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายเอาไว้ตลอดทั้งปีด้วย โดยสามารถยื่นทางสรรพากรได้ ปีละหนึ่งครั้ง ไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป


  • รายงาน ณ ที่จ่าย (ภงด.3)

คือ แบบยื่นเพื่อแจ้ง การหักภาษี ณ ที่จ่าย ของนิติบุคคล ที่ทำธุรกรรมกับบุคคลธรรมดา ที่เจ้าของธุรกิจ (นิติบุคคล) จะต้องหักออกจากค่าจ้างที่จ้างบุคคลภายนอกให้มาทำงานให้บริษัท โดยสามารถยื่นได้ ม่เกินวันที่ 7 ของเดือนถัดไป แต่หากยื่นออนไลน์สามารถยื่นได้ไม่เกินวันที่ 15 ของเดือนถัดไป


การตั้งค่าข้อมูลพนักงานคิดภาษี

การตั้งค่าข้อมูลพนักงานคิดภาษี สามารถกำหนดได้ 2 วิธีดังนี้

1.กำหนดให้คิดภาษีที่หน้าข้อมูลพนักงาน

2.กำหนดให้คิดภาษีที่เมนูย่อย


1.กำหนดให้คิดภาษีที่หน้าข้อมูลพนักงาน

การกำหนกให้คิดภาษีที่หน้าข้อมูลพนักงาน เป็นการตั้งค่ารายบุคคลของพนักงาน โดยสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอน ดังนี้

1.เข้าสู่ระบบและเลือกเมนู “ข้อมูลองค์กร”

2.เลือกเมนู “ข้อมูลพนักงาน” เพื่อเข้าสู่หน้าจัดการข้อมูลพนักงาน

3.เลือก “เลือกพนักงาน” ที่ต้องการกำหนดให้คิดภาษีที่หน้าข้อมูลพนักงาน

4.ทำการเลือกรายชื่อพนักงาน



5.เมื่อเลือกพนักงานเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกที่ช่อง “ภาษี” เพื่อเลือกประเภทภาษีที่ต้องการให้กับพนักงาน

6.จากนั้นเลือก “บันทึก” เพื่อยืนยันการบันทึกข้อมูล


หมายเหตุ : กรณีที่ไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการคำนวณภาษีให้กับพนักงานได้ สามารถดูคู่มืออย่างละเอียดได้ที่นี่

2.กำหนดให้คิดภาษีที่เมนูย่อย

การกำหนดให้คิดภาษีที่เมนูย่อย สามารถกำหนดให้กับพนักงานได้หลายคน โดยสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอน ดังนี้

1.เข้าสู่ระบบและเลือกเมนู “ข้อมูลองค์กร” และเลือกที่ “ข้อมูลพนักงาน” เหมือนวิธีการกำหนดให้คิดภาษีที่หน้าข้อมูลพนักงาน

2.เมื่อเข้าสู่หน้าเมนูย่อย ให้เลือกที่ “ข้อมูลเงินเดือน”

3.หลังจากนั้นเลือกประเภทการคิดภาษีที่ต้องการให้กับพนักงาน

4.เลือก “บันทึก” เพื่อยืนยันการบันทึกข้อมูล

ในกรณีที่มีการใช้งานโปรแกรมของ HumanSoft ระหว่างปี และมีความต้องการให้ระบบคำนวณภาษี รวมทั้งรายได้ก่อนหน้า ต่อจากระบบเดิม สามารถนำเข้าข้อมูลได้ 2 วิธี คือ

1.นำเข้าข้อมูลเงินเดือนสุทธิย้อนหลังในแต่ละรอบการคำนวณ

2.นำเข้ารายได้สะสมก่อนหน้า

ซึ่งเป็นการนำเข้าข้อมูลรายได้สะสมรวมกัน ตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนก่อนที่จะเริ่มคำนวณเงินเดือนผ่านระบบ

การนำเข้าเงินเดือนย้อนหลัง สามารถนำเข้าได้ 2 วิธีดังนี้

1.การนำเข้าที่เมนูคำนวณเงินเดือน

การนำเข้าที่เมนูคำนวณเงินเดือน ในหน้าปิดงวดบัญชีเป็นการนำเข้าเงินเดือนย้อนหลังทีละเดือนเพื่อให้แสดงยอดเงินสะสมในสลิปเงินเดือน ซึ่งสามารถดำเนินการได้ดังนี้

1.เข้าที่เมนู “ประมวลผลเงินเดือน” และเลือกที่ “คำนวณเงินเดือน”

2.เมื่อเข้าสู่หน้าคำนวณเงินเดือน ให้เลือกที่เมนู “ปิดงวดบัญชี”

3.จากนั้นสามารถเลือกที่ การนำเข้าข้อมูลเงินเดือนสุทธิย้อนหลังได้ หรือสามารถดูคู่มือการนำเข้าเงินเดือนเพิ่มเติมได้ที่นี่



2.การนำเข้ายอดสะสมย้อนหลังที่เมนูย่อย

โดยสามารถกรอกยอดยกมา ที่พนักงานเคยได้รับรายได้เท่าไหร่ หรือเสียประกันสังคม, ภาษี และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ไปเท่าไหร่ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงสามารถกรอกยอดเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริษัทสมทบได้เช่นกัน ซึ่งสามารถนำเข้ายอดสะสมย้อนหลังที่เมนูย่อยได้ดังนี้

1.เข้าสู่เมนู “ข้อมูลองค์กร” เลือกที่เมนู “ข้อมูลพนักงาน”

2.จากนั้นให้เลือก “เงินสะสมย้อนหลัง” ที่เมนูย่อย

3.กรอกข้อมูลเงินสะสมย้อนหลังให้ถูกต้อง

4.จากนั้นเลือก “บันทึก” เพื่อยืนยันการบันทึกข้อมูล


หมายเหตุ : การกรอกยอดสะสมย้อนหลังที่หน้าเมนูย่อย จะไม่แสดงรายละเอียดที่สลิปเงินเดือน และรายงาน ภงด.1 รายเดือน

ตัวอย่างสลิปเงินเดือนที่แสดงยอดสะสม

หลักการคำนวณภาษีใหม่ทุกเดือนของระบบ

หลักการคำนวณภาษีของทาง HumanSoft จะเป็นการนำเงินของในอดีต, ปัจจุบัน เเละอนาคตมาประมาณการรายได้ เเละคำนวณภาษี

  • ขั้นตอนการคำนวณรายได้พึงประเมิน : ตัวอย่างดังนี้

เริ่มใช้งานระบบเดือนกรกฎาคม เเละมีการนำเข้าข้อมูลเงินเดือนสุทธิ หรือรายได้สะสมย้อนหลังเรียบร้อยแล้วโดยมีข้อมูลดังนี้

จากนั้น นำรายได้พึงประเมิน มาหักลดหย่อนต่าง ๆ และเริ่มคำนวณภาษี

รายได้พึงประเมิน - หักค่าใช้จ่าย - ลดหย่อนส่วนตัว - ประกันสังคม – กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  • รายได้พึงประเมิน 385,250 บาท
  • หักค่าใช้จ่าย – 100,000 บาท


หมายเหตุ : หลักการคิดลดหย่อนค่าใช้จ่าย  คือนำรายได้พึงประเมิน x 50% = ยอดหักค่าใช้จ่าย ซึ่งมีการหักตามจริง ไม่เกิน 100,000 บาท


จะได้ 385,250 x 50% = 192,625 บาท ลดหย่อนค่าใช้จ่ายสูงสุด 100,000 บาท

  • ลดหย่อนส่วนตัว 120,000 บาท
  • ลดหย่อนประกันสังคม (ประมาณการ) 9,000 บาท
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 5,000 บาท

รายได้พึงประเมินที่มีการหักค่าลดหย่อนต่างๆ : 385,250 – 100,000 – 120,000 – 9,000 – 5,000 = 151,250 บาท


ขั้นตอนการคำนวณภาษี

  1. รายได้พึ่งประเมิน  - ภาษีขั้นที่ยกเว้น : 151,250 – 150,000 = 1,250 บาท
  2. 1,250 x 5% (ในขั้นที่ 2) = ยอดภาษีที่เสียทั้งปี 62.5 บาท
  3. นำยอดที่เสียภาษีทั้งปี หารด้วยเดือนที่ต้องเสียภาษี (นับรวมเดือนปัจจุบัน) จะได้ 62.5 / 6 เดือน = ภาษีที่ต้องเสียต่อเดือน


หมายเหตุ : หากเคยมีการจ่ายภาษีไปแล้ว ในช่วงที่นำเข้าข้อมูลเงินเดือนสุทธิ ให้นำยอดที่ต้องเสียภาษีทั้งปี – ภาษีที่เคยจ่ายไปก่อนหน้า จากนั้นนำยอดมาหารเดือนที่ต้องเสียภาษี

ตัวอย่าง ภาษีที่เสียทั้งปี 62.5 – ภาษีที่เคยจ่าย 1,560 = 1,497.5

นำ 1,497.5 / 6 เดือน = ภาษีที่ต้องเสียต่อเดือน 249.58 บาท ปัดเศษ 250 บาท


หลักการคำนวณภาษี ภงด.3 รวมเงินเดือน และ ไม่รวมเงินเดือน

หลักการคำนวณภาษี ภงด.3 รวมเงินเดือน

  • เงินเดือนพนักงาน 25,000 บาท
  • ค่าตำแหน่ง 1,500 บาท
  • ค่าครองชีพ 1,500 บาท
  • หักค่าชุดพนักงาน 1,000 บาท


ระบบจะนำ เงินเดือน + รายรับ – รายจ่าย = รายได้ก่อนคิดภาษี

ดังนี้ เงินเดือน + ค่าตำแหน่ง + ค่าครองชีพ – ค่าชุดพนักงาน จะได้ 25,000 + 1,500 + 1,500 – 1,000 = 27,000

จากนั้นนำ รายได้ก่อนคิดภาษี x 3% = ยอดเงินที่เสียภาษี

คือ 27,000 x 3% = 810 บาท


หลักการคำนวณภาษี ภงด.ไม่รวมเงินเดือน

โดยระบบจะไม่นำเงินเดือนมาคำนวณภาษีให้

  • ค่าตำแหน่ง 1,500 บาท
  • ค่าครองชีพ 1,500 บาท
  • หักค่าชุดพนักงาน 1,000 บาท

ระบบจะนำ รายรับ – รายจ่าย = รายได้ก่อนคิดภาษี

ดังนี้ ค่าตำแหน่ง + ค่าครองชีพ – ค่าชุดพนักงาน จะได้ 1,500 + 1,500 – 1,000 = 2,000

จากนั้นนำ รายได้ก่อนคิดภาษี x 3% = ยอดเงินที่เสียภาษี

คือ 2,000 x 3% = 60 บาท


หมายเหตุ : กรณีพนักงานคำนวณภาษี ภงด.3 การหักภาษี จะแสดงที่ช่อง หัก ณ ที่จ่าย


ขั้นตอนการนำจ่ายภาษี

ขั้นตอนการนำจ่ายภาษี สามารถดาวน์โหลดไฟล์ Text ที่เมนูรายงานภาษี ดังนี้

1.เข้าที่เมนู รายงาน

2.จากนั้นเลือกที่ “กลุ่มภาษี” และเลือกประเภทภาษีที่ต้องการนำจ่าย

3.เลือก Text เพื่อทำการจัดเตรียมข้อมูล ยื่นในโปรแกรม RD Prep  

และสามารถทำดาวน์โหลดโปรแกรม RD Prep ได้ที่ : https://efiling.rd.go.th/rd-cms/




หรือสามารถดาวน์โหลดไฟล์ Text ที่หน้า ปิดงวดบัญชี โดยสามารถดำเนินการได้ดังนี้

1.เข้าที่เมนู “การประมวลผลเงินเดือน” และเลือกที่ “คำนวณเงินเดือน”

2.เมื่อเข้าสู่หน้าคำนวณเงินเดือน ให้เลือกที่เมนู “ปิดงวดบัญชี”

3.จากนั้นสามารถเลือกที่ รายงานภาษี ภงด.1 หรือ รายงานภาษี ภงด.3 เพื่อดึงไฟล์ Text ในการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อยื่นในโปรแกรม RD Prep 


เมื่อทำการแปลงไฟล์จัดเตรียมข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จากนั้นเข้าที่ Website : https://efiling.rd.go.th/rd-efiling-web/login เพื่อนำไฟล์ที่มีการแปลงข้อมูลมายื่นภาษีออนไลน์


สรุปได้ง่ายๆ ดังนี้

การจ่ายภาษีเป็นข้อกำหนดกฎหมายสรรพากร ว่าด้วยคนไทยต้องมีการยื่นภาษีเพื่อแสดงรายได้ของตนเอง เพื่อให้ภาษีเหล่านั้นถูกนำไปพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ

โดยในระบบมีรายงานที่รองรับในการดาวน์โหลดรายงาน เพื่อยื่นแปลงไฟล์ภาษีและนำส่งเข้าเว็บไซต์สรรพากรทั้ง รายงานภาษีประจำเดือน (ภงด.1), รายงานภาษีประจำปี (ภงด.1ก) และ รายงานภาษี ณ ที่จ่าย (ภงด.3)


ข้อควรระวังในการตั้งค่าภาษี

การตั้งค่าการคิดภาษี ไม่ควรเปลี่ยนไปมา ระหว่างการคิดภาษีแบบคงที่, คิดภาษีภงด.1 ใหม่ทุกเดือน หรือคิดเป็น % รายได้ ซึ่งจะส่งผลให้การคำนวณภาษีและรายงานผิดพลาด เนื่องจากระบบจะเป็นการคำนวณภาษีแบบประมาณการ หากใช้วิธีคิดแบบใด ควรใช้ประเภทนั้นตลอด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการคำนวณภาษี และ รายงานภาษี



Modified: 2025-07-08 15:07:50
สารบัญเนื้อหาที่คุณสนใจ
  • การคำนวณ และการทำจ่ายภาษี
  • ความหมายของภาษีแต่ละประเภท
  • ความหมายของรายงานภาษีแต่ละประเภท
  • การตั้งค่าข้อมูลพนักงานคิดภาษี
  • การนำเข้าเงินเดือนย้อนหลัง สามารถนำเข้าได้ 2 วิธีดังนี้
  • หลักการคำนวณภาษีใหม่ทุกเดือนของระบบ
  • หลักการคำนวณภาษี ภงด.3 รวมเงินเดือน และ ไม่รวมเงินเดือน
  • ขั้นตอนการนำจ่ายภาษี