PageView Facebook
Published:  2025-05-23 91 views
HR Knowledge
ประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ40 มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? - blog image preview
Blog >ประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ40 มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

เจาะลึกความแตกต่างของประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ 40 ใครควรสมัครแบบไหน และสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบได้จากบทความนี้


อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม


ว่าด้วยเรื่องของประกันสังคม

แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะส่งเงินสมทบให้กับสำนักงานประกันสังคมเป็นประจำทุกเดือน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่อาจไม่ทราบว่าตนเองเป็นผู้ประกันตนตามมาตราใด หรือยังไม่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับจากการส่งเงินสมทบเหล่านั้นคืออะไรบ้าง

 

ความไม่รู้เหล่านี้อาจทำให้หลายคนมองข้ามสิทธิที่ตนเองมีอยู่ ทั้งที่ในความเป็นจริงระบบประกันสังคมได้จัดสรรสิทธิประโยชน์ไว้รองรับผู้ประกันตนในหลากหลายสถานการณ์ เพื่อให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมในยามจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วย การว่างงาน หรือการเข้าสู่วัยเกษียณ

 

เพื่อให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับความแตกต่างของประกันสังคม มาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา40 ซึ่งแต่ละมาตราล้วนมีเงื่อนไขในการส่งเงินสมทบและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกจ้าง พนักงานที่ลาออกแล้ว หรือแรงงานอิสระ การรู้ว่าตนอยู่ในมาตราไหน และได้รับสิทธิอะไรบ้าง นับเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนชีวิตและใช้สิทธิประโยชน์ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่


ความแตกต่างของมาตรา 33, 39 และ40

หลายคนอาจคุ้นเคยกับชื่อของ “ประกันสังคม” แต่ทราบหรือไม่ว่า ระบบประกันสังคมในประเทศไทยนั้น แบ่งออกเป็น 3 มาตราหลัก ได้แก่ มาตรา 33, มาตรา 39 และมาตรา 40 ซึ่งแต่ละมาตราถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะการทำงานและสถานะของผู้ประกันตนที่แตกต่างกัน ความแตกต่างเหล่านี้ครอบคลุมทั้ง รูปแบบการบังคับใช้ การจ่ายเงินสมท ความคุ้มครองที่ได้รับ และช่วงอายุของผู้สมัคร ซึ่งล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรทำความเข้าใจให้ชัดเจน บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจรายละเอียดของแต่ละมาตรา เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า สิทธิประโยชน์ที่คุณควรได้รับนั้นมีอะไรบ้าง และมาตราใดที่สอดคล้องกับสถานภาพของคุณมากที่สุด



ผู้ประกันตนภาคบังคับ (มาตรา 33)

มาตรา 33 ถือเป็นรูปแบบของการประกันตนภาคบังคับภายใต้พระราชบัญญัติประกันสังคม ซึ่งกำหนดให้ใช้กับลูกจ้างในสถานประกอบการภาคเอกชนที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีการว่าจ้างพนักงานตั้งแต่ 1 คนขึ้นไป โดยนายจ้างมีหน้าที่ดำเนินการขึ้นทะเบียนให้กับลูกจ้างที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี แต่ไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ โดยต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุน คิดเป็นสัดส่วนดังนี้ ลูกจ้าง 5% + นายจ้าง 5% + รัฐบาล 2.75%


ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดฐานเงินเดือนขั้นต่ำสำหรับการเข้าระบบประกันสังคมมาตรา 33 ไว้ที่ 1,650 บาท/เดือน หากได้รับค่าจ้างต่ำกว่านี้จะไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องส่งเงินสมทบ ส่วนเพดานสูงสุดของฐานค่าจ้างในปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินสมทบสูงสุดที่ 750 บาท/เดือน ในด้านของสิทธิประโยชน์ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด 7 กรณีสำคัญ ได้แก่:

  1. ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วย
  2. เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ
  3. เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต
  4. ค่าคลอดบุตร
  5. เงินสงเคราะห์บุตร
  6. เงินบำเหน็จหรือบำนาญชราภาพ
  7. เงินทดแทนกรณีว่างงาน



ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ (มาตรา 39)

ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 คือ บุคคลที่เคยทำงานอยู่ในบริษัทเอกชนในมาตรา 33 มาก่อนแล้วได้ทำการลาออก แต่ตนยังคงต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมไว้ จึงสมัครเข้าใช้สิทธิประกันสังคมในมาตรา 39 แทน


การเข้าร่วมในมาตรานี้มีเงื่อนไขสำคัญคือ ผู้สมัครต้องเคยส่งเงินสมทบในมาตรา 33 มาแล้วอย่างน้อย 12 เดือน และต้องลาออกจากงานไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ยุติสัญญาจ้าง ทั้งยังต้องไม่อยู่ในสถานะทุพพลภาพที่ได้รับเงินชดเชยจากกองทุนประกันสังคม


สำหรับการส่งเงินสมทบ ผู้ประกันตนจะชำระในอัตราคงที่ 432 บาท/เดือน โดยภาครัฐจะช่วยสมทบเพิ่มเติมอีก 120 บาท/เดือน ในด้านของสิทธิประโยชน์ ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับความคุ้มครองครอบคลุมทั้งหมด 6 กรณีสำคัญ ได้แก่:

  1. ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ
  2. เงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ
  3. เงินชดเชยกรณีเสียชีวิต
  4. สิทธิประโยชน์กรณีคลอดบุตร
  5. เงินสงเคราะห์บุตร
  6. เงินบำเหน็จหรือบำนาญเมื่อเข้าสู่วัยชรา

หมายเหตุ: ผู้ประกันตนในมาตรานี้จะไม่ได้รับสิทธิในกรณีว่างงานเนื่องจากเมื่อพ้นจากการเป็นลูกจ้าง สิทธิประโยชน์ในส่วนดังกล่าวยังสามารถใช้ได้จากระบบของมาตรา 33 เดิม ที่เคยส่งเงินสมทบไว้ก่อนหน้า


ผู้ประกันตนภาคสมัครใจ (มาตรา 40)

ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 จัดอยู่ในกลุ่มประกันสังคมรูปแบบเดียวกับมาตรา 39 ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นลูกจ้างในระบบ ทั้งนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่นพ่อค้าแม่ค้า แรงงานนอกระบบ หรือฟรีแลนซ์ที่ไม่มีนายจ้าง และไม่ได้อยู่ภายใต้ความคุ้มครองของมาตรา 33 หรือมาตรา 39


โดยเงื่อนไขของการสมัครเข้าร่วมมาตรา 40 ผู้สมัครจะต้องมีอายุระหว่าง 15-65 ปี และ ไม่ได้ประกอบอาชีพรับราชการหรือเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากกลุ่มอาชีพดังกล่าว ได้รับสิทธิสวัสดิการจากภาครัฐในรูปแบบอื่นอยู่แล้ว สิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตน มาตรา 40 สามารถแบ่งตามเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายทุกเดือน โดยรายละเอียดมีดังนี้:

1. ส่งเงินสมทบ 70 บาท/เดือน ให้ความคุ้มครองใน 3 กรณี ได้แก่:

  • เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ: รับเงินชดเชยสูงสุด 300 บาท/วัน (ไม่เกิน 30 วัน/ปี)
  • ทุพพลภาพ: รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 500-1,000 บาท ไม่เกิน 15 ปี
  • เสียชีวิต: รับค่าทำศพ 25,000 บาท หากส่งเงินสมทบครบ 60 เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 8,000 บาท

2. ส่งเงินสมทบ 100 บาท/เดือน ให้ความคุ้มครองใน 4 กรณี ได้แก่:

  • เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ: รับเงินชดเชยสูงสุด 300 บาท/วัน (ไม่เกิน 30 วัน/ปี)
  • ทุพพลภาพ: รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 500-1,000 บาท ไม่เกิน 15 ปี
  • ชราภาพ: รับบำเหน็จชราภาพ 50 บาท/เดือน (ออมเพิ่มได้ 1,000 บาท/เดือน)
  • เสียชีวิต: รับค่าทำศพ 25,000 บาท หากส่งครบ 60 เดือน จะได้รับเพิ่มอีก 8,000 บาท

3. ส่งเงินสมทบ 300 บาท/เดือน ให้ความคุ้มครองใน 5 กรณี ได้แก่:

  • เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ: รับเงินชดเชยสูงสุด 300 บาท/วัน (ไม่เกิน 90 วัน/ปี)
  • ทุพพลภาพ: รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 500-1,000 บาท(ตลอดชีวิต)
  • สงเคราะห์บุตร: ได้รับเงินอุดหนุน 200 บาท/คน/เดือน สูงสุด 2 คน
  • ชราภาพ: รับบำเหน็จชราภาพ 150 บาท/เดือน กรณีจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน รับเงินเพิ่ม 10,000 บาท (ออมเพิ่มได้ 1,000บาท/เดือน)
  • เสียชีวิต: รับค่าทำศพ 50,000 บาท

สรุป ประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ40 มีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

โดยสรุปแล้ว ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างประกันสังคมมาตรา 33, 39 และ40 ขึ้นอยู่ที่ สิทธิประโยชน์ ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ รวมถึงคุณสมบัติของผู้สมัครและรูปแบบการส่งเงินสมทบที่แตกต่างกันไป โดยมาตรา 33 เหมาะสำหรับลูกจ้างในสถานประกอบการเอกชน ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิประโยชน์ครบทั้ง 7 กรณี, มาตรา 39 เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ลาออกจากงานแต่ต้องการคงสิทธิประกันสังคมไว้ สิทธิประโยชน์จะคงไว้ 6 กรณี เหมือนมาตรา 33 แต่ไม่ครอบคลุมในกรณีว่างงาน และมาตรา 40 เปิดรับประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระหรืออยู่นอกระบบแรงงานประจำ โดยสามารถเลือกความคุ้มครองได้ 3 ทางเลือกตามจำนวนเงินสมทบที่ส่งไป ซึ่งสิทธิประโยชน์จะครอบคลุมตั้งแต่ 3 ถึง 5 กรณี ขึ้นอยู่กับแผนที่ผู้สมัครเลือก

hms-helpful-shadow svg fileโปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน ครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้