เปิด! 7 พฤติกรรมการทำงานที่เสี่ยงทำให้ลูกจ้างโดนเลิกจ้างมากที่สุด จะมีพฤติกรรมใดบ้างที่ลูกจ้างต้องรู้ วันนี้ HumanSoft รวบรวมคำตอบมาให้แล้ว ไปดูกันเลยค่ะ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ว่าด้วยเรื่อง “งานประจำกับพฤติกรรมของพนักงาน”

คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก หากคุณต้องตกงานในช่วงเวลานี้

ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทั้งงานและรายได้กลายเป็นสิ่งที่หายากขึ้น ขณะที่ยังมีคนอีกไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับการว่างงานท่ามกลางการแข่งขันที่สูง เด็กจบใหม่ล้นตลาด และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้น การรักษาตำแหน่งงานที่มีอยู่ไว้ จึงอาจเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดที่สุดในเวลานี้

แต่...อย่าเพิ่งคิดว่าแค่มีงานทำแล้วจะปลอดภัยเสมอไป เพราะบางพฤติกรรมที่คุณเผลอทำในที่ทำงานอาจกลายเป็น “จุดเสี่ยง” ที่ทำให้หัวหน้างานมองว่า คุณอาจไม่เหมาะสมที่จะอยู่ต่อ!

ลองมาดูกันว่า...พฤติกรรมการทำงานแบบไหนที่อาจทำให้คุณเสี่ยงโดนเลิกจ้างโดยไม่รู้ตัว?

พฤติกรรมการทำงานแบบไหนที่เสี่ยงโดนเลิกจ้าง?

พฤติกรรมการทำงานแบบไหน...ที่อาจนำไปสู่การถูกเลิกจ้าง? ในโลกของการทำงานความสามารถเพียงอย่างเดียวอาจไม่พอ หากพฤติกรรมกลับสร้างปัญหาโดยไม่รู้ตัว วันนี้เรารวบรวม 7 พฤติกรรมเสี่ยง ที่อาจทำให้คุณ “หมดสิทธิ์อยู่ต่อ” ในสายตาของหัวหน้างาน มาดูกันว่า… คุณมีพฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้อยู่ในตัวหรือเปล่า?

1. ขาดงาน / มาสายเป็นประจำ

การขาดงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรือมาทำงานสายบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่เป็นการขาดวินัยขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการไม่ใส่ใจ และไม่รับผิดชอบต่องานของตัวเอง ส่งผลให้เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าเริ่มหมดความเชื่อถือ

2. ประสิทธิภาพการทำงานต่ำกว่ามาตรฐาน

การทำงานเพียงเพื่อให้ “มีงานส่ง” โดยไม่ใส่ใจคุณภาพ ไม่ตรวจสอบความถูกต้องก่อนส่ง หรือใช้เวลานานเกินความจำเป็น อาจกลายเป็นภาระให้ทีมต้องคอยแก้ไขซ้ำ ๆ และทำให้ถูกมองว่าไม่สามารถพึ่งพาได้ในระยะยาว

3. ละเมิดนโยบายของบริษัท

การใช้ทรัพยากรของบริษัทอย่างไม่เหมาะสม หรือเปิดเผยข้อมูลความลับของบริษัทแม้เพียงครั้งเดียวก็อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความน่าเชื่อถือของคุณ และนำไปสู่การพิจารณายุติการจ้างงานได้ทันที

4. พนักงานที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทในบริษัท

การมีปากเสียงหรือทะเลาะวิวาทในที่ทำงาน ถือเป็นพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการขาดการควบคุมอารมณ์และมักถูกจับตามองจากผู้บริหารอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์ลุกลามจนถึงขั้นลงไม้ลงมือ ไม่เพียงแต่เสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างในทันที แต่ยังอาจมีผลทางกฎหมายในข้อหาทำร้ายร่างกายอีกด้วย

5. ทุจริตหรือกระทำผิดจริยธรรม

การทุจริตหรือกระทำผิดจริยธรรม ไม่ว่าจะเป็นการปลอมแปลงเอกสาร การยักยอก หรือรับผลประโยชน์ทับซ้อน ล้วนถือเป็นความผิดร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมความกันได้

6. ขาดทัศนคติที่ดีในการทำงาน

การปิดกั้นตัวเองจากคำแนะนำ ไม่เปิดใจรับ Feedback ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง หรือมองทุกอย่างในแง่ลบ ล้วนส่งผลให้บรรยากาศในทีมขาดพลังและแรงขับเคลื่อน โดยที่เจ้าตัวอาจไม่รู้เลยว่า กำลังกลายเป็นภาระที่ขัดขวางความก้าวหน้าของทีม และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานใอนาคตได้

7. ไม่ให้ความร่วมมือกับทีม

การทำงานแบบแยกตัว ไม่สื่อสาร ไม่แบ่งปันข้อมูล หรือปฏิเสธการช่วยเหลือในเวลาที่ทีมต้องการ ล้วนสะท้อนให้เห็นว่า “คุณไม่ได้เล่นเป็นทีม” ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นที่เพื่อนร่วมงานมีต่อคุณโดยไม่รู้ตัว

สรุป รู้หรือไม่? พฤติกรรมการทำงานแบบไหนที่เสี่ยงโดนเลิกจ้าง

ลูกจ้างทุกคนควรลองเช็กพฤติกรรมของตัวเองดูนะคะว่า คุณกำลังมีพฤติกรรมการทำงานที่เสี่ยงต่อการโดนเ ลิกจ้างหรือไม่ เพราะพฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้คุณกลายเป็น "จุดเสี่ยง" โดยไม่รู้ตัว ซึ่งพฤติกรรมการทำงานที่เสี่ยงโดนเลิกจ้างที่ทุกคนต้องรู้มีดังนี้ 1. ขาดงาน / มาสายเป็นประจำ 2. ประสิทธิภาพการทำงานต่ำกว่ามาตรฐาน 3. ละเมิดนโยบายของบริษัท 4. พนักงานที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทในบริษัท 5. ทุจริตหรือกระทำผิดจริยธรรม 6. ขาดทัศนคติที่ดีในการทำงาน และ 7. ไม่ให้ความร่วมมือกับทีม ดังนั้น เพื่อให้ลูกจ้างยังคงมีงานที่มั่นคง จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงทั้ง 7 ข้อนี้ และที่สำคัญไม่ควรหยุดพัฒนาทักษะ ความรู้ และความสามารถของตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่ดีกว่าในอนาคต