PageView Facebook
date_range 04/07/2023 visibility 24242 views
bookmark HR Knowledge
สวัสดิการที่ทุกบริษัทต้องมีตามกฎหมายแรงงาน - blog image preview
Blog >สวัสดิการที่ทุกบริษัทต้องมีตามกฎหมายแรงงาน

สวัสดิการในบริษัทนั้น มักจะแตกต่างกันไปตามการบริหาร แต่ยังคงต้องอยู่ภายใต้สวัสดิการแรงงานที่กฎหมายกำหนด โดยมีอะไรบ้างนั้น ดูกันในบทความนี้เลย


สวัสดิการบริษัทในประเทศไทย


สวัสดิการแรงงานเป็นปัจจัยสำคัญที่บริษัทไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะ สวัสดิการพนักงานยุคใหม่ เพราะสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับลูกจ้าง และครอบครัวของพนักงานได้ และลูกจ้างเองก็ล้วนต้องการบริษัทที่มีสวัสดิการที่ดี มีความมั่นคงให้กับครอบครัว อีกทั้งการให้สวัสดิการที่ดีของบริษัทนั้น สามารถเรียกได้ว่าเป็น “น้ำใจ” ที่ลูกจ้าง ได้รับจากบริษัทอีกด้วย จะทำให้ลูกจ้าง เกิดความรัก เกิดความภักดี รวมถึงเป็นมีกำลังใจในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เรื่องเกี่ยวกับสวัสดิการที่คุณอาจสนใจ

 

โดยสวัสดิการ บริษัทในประเทศไทยนั้น ได้ถูกส่งเสริมจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานภายใต้กรอบภารกิจการปฏิบัติงาน ซึ่งแบ่งสวัสดิการแรงงานออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้


1. สวัสดิการบริษัท ตามที่กฎหมายกำหนด



สวัสดิการคือ สิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับลูกจ้าง ที่องค์กรต้องจัดให้ลูกจ้าง ตามกฏกระทรวง ว่าด้วยการ จัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2548 ซึ่งจะพูดถึงเรื่องหลักๆ คือ น้ำดื่ม ห้องน้ำ ห้องส้วม การปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาล โดยมีรายละเอียดดังนี้


1.1 ในสถานที่ทำงานต้องจัดให้มีน้ำดื่มและห้องน้ำดังนี้

     

  • น้ำสะอาด สำหรับดื่ม

โดยน้ำสะอาด 1 ที่ ต่อลูกจ้างไม่เกิน 40 คน และเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วน ซึ่งเศษของ 40 คนนั้น หากเกิน 20 คนให้ถือเป็น 40 คน

       

  • ห้องน้ำ ห้องส้วม

ที่มีการดูแลรักษาความสะอาดให้อยู่ในสภาพถูกสุขลักษณะเป็นประจำทุกวัน และแยกชาย-หญิง หากมีลูกจ้างเป็นคนพิการก็จะต้องมีห้องน้ำห้องส้วมสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ โดยแบบและจำนวนห้องน้ำห้องส้วมให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยการควบคุม อาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง





1.2 สิ่งจำเป็นในการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาล

ในสถานที่ทำงานต้องจัดให้มีสิ่งจำเป็นในการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาล เวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลในจำนวนที่เพียงพอ โดยแบ่งตามจำนวนลูกจ้างดังนี้


1.2 (1) ลูกจ้างตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป

ต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์และยา อย่างน้อยตามรายการดังนี้ 

   กรรไกร แก้วยาน้ำ และแก้วยาเม็ด เข็มกลัด ถ้วยน้ำ ที่ป้ายยา  ปรอทวัดไข้ ปากคีบปลายทู่  ผ้าพันยืด  ผ้าสามเหลี่ยม  สายยางรัดห้ามเลือด  สำลี ผ้าก๊อซ ผ้าพันแผล และผ้ายางปลาสเตอร์ปิดแผล    หลอดหยดยา  ขี้ผึ้งแก้ปวดบวม  ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือโพวิโดน-ไอโอดีน  น้ำยาโพวิโดน-ไอโอดีน ชนิดฟอกแผล  ผงน้ำตาลเกลือแร่  ยาแก้ผดผื่นที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ ยาแก้แพ้ ยาทาแก้ผดผื่นคัน ยาธาตุน้ำแดง ยาบรรเทาปวดลดไข้  ยารักษาแผลน้ำร้อนลวก   ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร  เหล้าแอมโมเนียหอม  แอลกอฮอล์เช็ดแผล ขี้ผึ้งป้ายตา  ถ้วยล้างตา  น้ำกรดบอริคล้างตา  ยาหยอดตา

 

1.2 (2) ลูกจ้างตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีตามรายการดังนี้

  • เวชภัณฑ์และยา ตามข้อ 1.2 (1)
  • ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้อย่างน้อย 1 เตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ใน ข้อ 1.2 (1) ตามความจำเป็นและให้เพียงพอแก่การรักษาพยาบาลเบื้องต้น
  • พยาบาลประจำอย่างน้อย 1 คนตลอดเวลาทำงาน โดยเป็นพยาบาลตั้งแต่ระดับเทคนิคขึ้นไป
  • แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งอย่างน้อย 1 คน เพื่อตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เมื่อรวมเวลาแล้วต้อง ไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน

 

1.2 (3) ลูกจ้างตั้งแต่ 1000 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีตามรายการดังนี้

  • เวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลตาม ข้อ 1.2 (1)
  • ห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้อย่างน้อย 1 เตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ใน ข้อ 1.2 (1) ตามความจำเป็นและให้เพียงพอแก่การรักษาพยาบาลเบื้องต้น  
  • พยาบาลประจำอย่างน้อย 2 คนตลอดเวลาทำงาน โดยเป็นพยาบาลตั้งแต่ระดับเทคนิคขึ้นไป
  • แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งอย่างน้อย 1 คน เพื่อตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เมื่อรวมเวลาแล้วต้อง ไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน
  • ยานพาหนะที่พร้อมจะนำลูกจ้างส่งสถานพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน

 

1.3  นายจ้างอาจทำข้อตกลงกับสถานพยาบาลเพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง

         นายจ้างสามารถทำข้อตกลงกับสถานพยาบาลที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษาได้ตลอดเวลา เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว แทนการจัดให้มีแพทย์ตามข้อ 1.2 (2) หรือข้อ 1.2 (3) ได้


2. สวัสดิการบริษัท นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด



    จากคำกล่าวที่ว่า สวัสดิการเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับลูกจ้าง และเป็นสิ่งที่ลูกจ้างเองก็ต้องการเช่นกัน

อีกทั้งลูกจ้างขององค์กรในแต่ละพื้นที่ ก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกันไป คณะกรรมการสวัสดิการตามพระราชบัญญัติจึงแนะนำรูปแบบสวัสดิการพนักงานที่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ แต่สถานประกอบการสามารถจัดสวัสดิการให้ตามความต้องการของลูกจ้างได้ เพื่อเป็นทางเลือก โดยแบ่งเป็นหมวดๆ ได้ดังนี้

 

       2.1. สวัสดิการที่มุ่งพัฒนาลูกจ้าง

  • การส่งเสริมการศึกษาทั้งในและนอกเวลาทำงาน
  • การจัดตั้งโรงเรียนในโรงงาน
  • การอบรมความรู้เกี่ยวกับการทำงานทั้งในและนอกสถานที่ทำงาน
  • การจัดให้มีห้องสมุด หรือมุมอ่านหนังสือ ฯลฯ เป็นต้น

       2.2. สวัสดิการที่ช่วยเหลือในเรื่องค่าครองชีพ

  • การจัดตั้งร้านค้าสวัสดิการหรือสหกรณ์ร้านค้า  
  • การให้เงินช่วยเหลือต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานอุปสมบท งานศพ
  • การจัดชุดทำงาน
  • การจัดหอพัก
  • การจัดให้มีรถรับ-ส่ง
  • เงินโบนัส ค่าครองชีพ เบี้ยขยัน ค่าเข้ากะ

       2.3. สวัสดิการที่ช่วยเหลือการออมของลูกจ้าง

  • สหกรณ์ออมทรัพย์    
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

       2.4. สวัสดิการที่พัฒนาสถาบันครอบครัวของลูกจ้าง

  • การจัดสถานเลี้ยงดูบุตรของลูกจ้าง
  • การช่วยค่ารักษาพยาบาลบุคคลในครอบครัว
  • การช่วยเหลือค่าเล่าเรียนบุตรของลูกจ้าง
  • การประกันชีวิตให้กับลูกจ้าง

       2.5. สวัสดิการที่ส่งเสริมความมั่นคงในอนาคต

  • เงินบำเหน็จ
  • เงินรางวัลทำงานนาน
  • ให้ลูกจ้างซื้อหุ้นของบริษัท
  • กองทุนฌาปนกิจ
  • เงินกู้เพื่อสวัสดิการที่พักอาศัย

      2. 6. สวัสดิการนันทนาการและสุขภาพอนามัย

  • การจัดทัศนศึกษา
  • การแข่งขันกีฬา   
  • การจัดงานเลี้ยงสังสรรค์พนักงาน
  • การให้ความรู้เรื่องสุขภาพอนามัย

สรุปสวัสดิการที่ทุกบริษัทต้องมีตามกฎหมายแรงงาน

     

สวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญนอกเหนือจากเงินเดือน ที่จะทำให้ลูกจ้างมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสะดวกสบายและคุณภาพชีวิตของครอบครัวก็ดีขึ้นด้วย ซึ่งสวัสดิการมีทั้งจากที่กฎหมายกำหนดและนอกเหนือกฎหมายกำหนด โดยองค์กรสามารถจัดสวัสดิการตามความต้องการของพนักงานได้ ไม่ว่าจะเป็น สวัสดิการเงินกู้ยืม สวัสดิการกองทุนหรือสวัสดิการด้านการเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจในการทำงาน สร้างความภักดีให้กับองค์กรและที่สำคัญที่สุดคือ สามารถสร้างประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นด้วย 

     

และเมื่อสวัสดิการเป็นเรื่องสำคัญแล้วการบริหารงานด้านสวัสดิการก็เป็นเรื่องสำคัญด้วยเช่นกันการบริหารสวัสดิการที่ซับซ้อน ทั้งในด้านการคำนวณและการบันทึกรายละเอียดต่างๆ ให้มีความถูกต้อง สะดวกและรวดเร็ว จึงต้องมีตัวช่วยอย่างโปรแกรมบริหารงานบุคคล HumanSoft ที่จะทำให้การบริหารงานของ HR หรือเจ้าของกิจการมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น




โปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วันครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้