PageView Facebook
Published:  2025-07-25 74 views
HR Knowledge
พนักงานใหม่ขอเว้นส่งเงินสมทบประกันสังคม สามารถทำได้หรือไม่? - blog image preview
Blog >พนักงานใหม่ขอเว้นส่งเงินสมทบประกันสังคม สามารถทำได้หรือไม่?

เคยเจอคำถามนี้ไหม? เข้างานใหม่ยังไม่ส่งเงินสมทบประกันสังคมได้ไหม? หากใช่บทความนี้อาจเป็นประโยชน์กับคุณ มาดูกันว่าทำได้หรือไม่? มีความผิดทางกฎหมายหรือเปล่า?


อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม


ทำความรู้จัก เงินสมทบประกันสังคม คืออะไร?

เงินสมทบประกันสังคม คือ เงินที่นายจ้างและลูกจ้างต้องร่วมกันจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน โดยคิดจากฐานค่าจ้างในอัตรา 5% ของรายได้โดยไม่เกิน 750 บาท ซึ่งลูกจ้างที่มีฐานค่าจ้างตั้งแต่ 1,650–15,000 บาทต่อเดือน จะต้องจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 83–750 บาทต่อเดือน ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของนายจ้างในการหักเงินสมทบจากค่าจ้างของลูกจ้างและนำส่งให้ทุกเดือน

 

โดยผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคมแบ่งได้ดังนี้

  • ผู้ประกันตน มาตรา 33 : คือ ลูกจ้างที่ทำงานในบริษัทหรือองค์กร โดยนายจ้างจะต้องหักเงินเดือนของลูกจ้างส่งเข้าประกันสังคม พร้อมสมทบเงินในส่วนของนายจ้างด้วย
  • ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 39 : ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างตามมาตรา 33 มาก่อน แล้วลาออกแต่ยังต้องการรับสิทธิประกันสังคมต่อ โดยสมัครใจส่งเงินสมทบเอง
  • ผู้ประกันตนโดยสมัครใจ มาตรา 40 : แรงงานอิสระที่ต้องการเข้าระบบประกันสังคมโดยสมัครใจ

 

Tips! อ่านเรื่องเงินสมทบประกันสังคมเพิ่มเติมที่ >>> ความสำคัญและวิธีการส่งเงินสมทบประกันสังคม


พนักงานใหม่ขอเว้นส่งเงินสมทบประกันสังคมช่วงแรกของการทำงานทำได้ไหม?

คำตอบคือ พนักงานใหม่ไม่สามารถขอเลื่อนหรือเว้นการส่งเงินสมทบประกันสังคมได้ เพราะอาจขัดต่อข้อกำหนดทางกฎหมาย และทำให้นายจ้างเสี่ยงต่อการถูกปรับหรือดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

ข้อกำหนดทางกฏหมาย

ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ได้กำหนดไว้ว่า นายจ้างมีหน้าที่ต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนให้กับลูกจ้าง และนำส่งเงินสมทบให้กับสำนักงานประกันสังคม ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลูกจ้างเริ่มทำงาน โดยเงินสมทบดังกล่าวเป็นภาระร่วมกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งจะต้องส่งเข้ากองทุนประกันสังคมเป็นรายเดือน ในอัตราที่กฎหมายกำหนด

 

โทษทางกฎหมายหากนายจ้างไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด

นายจ้างที่ไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตามกฎหมายและได้รับโทษทางกฎหมาย ดังนี้

  • มีโทษปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท ต่อการไม่แจ้งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน
  • มีโทษปรับ ไม่เกิน 20,000 บาท ต่อการไม่นำส่งเงินสมทบ
  • ต้องนำส่งเงินสมทบย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับอีก 2% ต่อเดือน จนกว่าจะชำระครบ

เมื่อพนักงานใหม่ขอเว้นส่งเงินสมทบประกันสังคม HR จะรับมืออย่างไร?

แน่นอนว่าเมื่อเจอคำถามนี้ HR อาจต้องอธิบายให้พนักงานเข้าใจอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งชี้แจงถึงหน้าที่ตามกฎหมายและสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งอาจอธิบายให้พนักงานได้ดังนี้




 

อธิบายให้พนักงานใหม่เข้าใจว่าเป็น “ข้อบังคับตามกฎหมาย

อธิบายให้เข้าใจว่าการส่งเงินสมทบประกันสังคมตามมาตรา 33 เป็นข้อกำหนดทางกฎหมายที่ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องปฏิบัติตาม โดยนายจ้างมีหน้าที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนให้กับพนักงานภายใน 30 วันนับจากวันที่เริ่มทำงาน และไม่สามารถตกลงกันเองเพื่อเลื่อนหรือเว้นการส่งเงินสมทบได้ เนื่องจากเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มีผลตามกฎหมาย

 

ชี้แจงสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับเมื่อเข้าประกันสังคม

ประกันสังคมให้ความคุ้มครองในหลายด้านที่เป็นประโยชน์ต่อพนักงาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล เงินทดแทนการขาดรายได้ ค่าคลอดบุตร เงินกรณีว่างงาน และเงินชราภาพ เป็นต้น ซึ่งสิทธิเหล่านี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและสร้างหลักประกันให้กับพนักงานในระยะยาว ดังนั้น HR ควรย้ำให้พนักงานเข้าใจว่าการส่งเงินสมทบประกันสังคมไม่ใช่แค่หน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคตของตัวพนักงานเองอีกด้วย

 

อธิบายเรื่องค่าใช้จ่ายเงินสมทบประกันสังคมให้เข้าใจง่าย

พนักงานบางคนอาจรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการถูกหักเงินเดือนเมื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม ซึ่ง HR ควรชี้แจงให้เข้าใจว่า ลูกจ้างจะถูกหักเงินสมทบเพียง 5% ของค่าจ้างเท่านั้น และไม่เกิน 750 บาทต่อเดือน โดยในส่วนนี้นายจ้างจะสมทบให้อีกเท่ากัน พร้อมกับที่รัฐจะช่วยสมทบเพิ่มเติมอีกส่วนหนึ่ง ถือเป็นการร่วมกันรับผิดชอบเพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์อย่างครบถ้วนและมั่นคงในระยะยาว

 

อธิบายถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ส่งเงินสมทบให้เข้าใจ

หากไม่มีการส่งเงินสมทบประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด ลูกจ้างจะสูญเสียสิทธิในการได้รับความคุ้มครองต่าง ๆ จากประกันสังคม ขณะเดียวกันายจ้างก็อาจถูกปรับหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร นอกจากนี้ยังอาจสร้างความเสียหายให้กับทั้งสองฝ่ายในระยะยาว ทั้งในแง่สิทธิประโยชน์และความสัมพันธ์ในการทำงานอีกด้วย


สรุป พนักงานใหม่ขอไม่หักเงินสมทบประกันสังคม สามารถทำได้หรือไม่?

พนักงานใหม่ไม่สามารถขอเลื่อนหรือยกเว้นการส่งเงินสมทบประกันสังคมได้ เพราะเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่นายจ้างและลูกจ้างต้องดำเนินการร่วมกันภายใน 30 วันหลังเริ่มงาน หากละเลย อาจส่งผลให้ลูกจ้างเสียสิทธิประโยชน์ที่ควรได้รับ และทำให้นายจ้างมีความผิดตามกฎหมาย HR จึงควรให้ข้อมูลอย่างชัดเจน พร้อมอธิบายสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับ เพื่อสร้างความเข้าใจและปฏิบัติให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นการจ้างงาน


hms-helpful-shadow svg fileโปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน ครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้