OKR และ KPI เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่รู้จักกันดีสำหรับชาว HR อย่างเรา ๆ ที่นำมาใช้ในการจัดการประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น
การประเมิน OKR และ KPI
การบริหารองค์กรนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือในการกำหนดเป้าหมายและการวัดผลของความสำเร็จ ซึ่ง OKR และ KPI เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการประเมินที่หลาย ๆ บริษัทนิยมเลือกใช้ ซึ่งทั้งสองมีแนวคิดและการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่ง OKR และ KPI ล้วนเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมุ่งหวังสู่ความสำเร็จและวัดผลงานในทิศทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ทำความรู้จักกับ OKR
OKR เรียกได้ว่าหลาย ๆ บริษัทกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก OKR เป็นหลักการที่ Google ได้นำมาใช้ และประสบความสำเร็จ จึงส่งผลให้หลาย ๆ บริษัทนำมาใช้กันภายในบริษัทมากขึ้น
OKR ย่อมากจากคำว่า Objective and Key Results เป็นการตั้งเป้าหมายและการกำหนดตัวชี้วัดผลเพื่อติดตามความสำเร็จของเป้าหมาย
Objectives (เป้าหมาย)
เป้าหมายในระดับที่สูงขององค์กรหรือทีม ซึ่งอธิบายความมุ่งมั่นหรือปณิธานที่ต้องการทำให้เกิดขึ้น เป้าหมายจะต้องเป็นแนวทางในการทำงานและเน้นไปที่ความหมายที่กว้างขวางกว่าเพียงการวัดผลงานเดือนหรือไตรมาสเท่านั้น
Key Results (ผลลัพธ์สำคัญ)
ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มักเป็นจำนวนหรือเปอร์เซ็นต์ที่แสดงถึงความก้าวหน้าในการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ถูกต้องเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งควรเป็นไปในทิศทางที่ท้าทายและส่งเสริมให้พัฒนาการ
ทำความรู้จักกับ KPI
KPI ย่อมาจากคำว่า Key Performance Indicators เป็นดัชนีวัดผลงานเพื่อประเมินประสิทธิภาพและความก้าวหน้าสำหรับองค์กร บุคคล โครงการ และการดำเนินงาน เป็นต้น เป็นดัชนีที่วัดความสำเร็จออกมาเป็นตัวเลขโดยเทียบกับเป้าหมายที่ตกลงกันไว้
K ย่อมาจาก Key คือ หัวใจหลัก เป้าหมายหลัก หรือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
P ย่อมาจาก Performance คือ ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล หรือความสามารถในการทำงาน
I ย่อมาจาก Indicator คือ ดัชนีชี้วัด หรือเกณฑ์ตัวชี้วัด
Tips! อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : KPI คืออะไร? ประเมินผลงานเพื่อคุณภาพขององค์กร
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง OKR VS KPI
OKR (Objectives and Key Results) และ KPI (Key Performance Indicators) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและบริหารผลงานขององค์กร แต่มีความแตกต่างกันดังนี้
1.การใช้งาน
การประเมิน OKR เป็นกระบวนการกำหนดเป้าหมายและวัดผลเพื่อสร้างการเรียนรู้และปรับปรุงในระยะสั้น ในขณะที่ KPI เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพและผลงานที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายขององค์กร มุ่งเน้นการวัดผลและบริหารงานในระยะยาว
2. การกำหนดเป้าหมาย
OKR นั้นเป็นการกำหนดเป้าหมายในรูปแบบ Bottom-up ซึ่งเป็นการระดมความคิดหรือกำหนดเป้าหมายร่วมกันกับพนักงาน ในขณะที่ KPI เป็นการกำหนดเป้าหมายในรูปแบบ Top-Down โดยองค์กรเป็นผู้กำหนดเป้าหมายให้กับพนักงาน
3. การตั้งเป้าหมาย
อย่างที่ทราบกันดีว่า OKR นั้นจะเป็นการตั้งเป้าหมายที่สูงหรือมีความท้าทาย เพื่อกระตุ้นความสนใจและการมุ่งมั่นในการทำงาน ในขณะที่ KPI เป็นการตั้งเป้าหมายที่คาดว่าน่าจะทำได้จริง
4. ระบบค่าตอบแทน
OKR จะไม่เชื่อมโยงกับค่าตอบแทน แต่ในส่วนของ KPI จะส่งผลโดยตรงกับค่าตอบแทนของพนักงาน กรณีที่ทำตามเป้าหมายของ KPI ที่กำหนดไว้สำเร็จ มักจะได้ผลตอบแทน เช่น ได้รับเงินโบนัส ได้รับการปรับเงินเดือน เป็นต้น
ควรเลือกใช้ OKR หรือ KPI จึงจะเหมาะสมกับองค์กร
การเลือกใช้งาน OKR และ KPI ให้ถูกต้องและเห็นผลมากที่สุดนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความต้องการขององค์กร ซึ่งแต่ละเครื่องมือที่ใช้ในการประเมินล้วนมีบทบาท คุณสมบัติ และข้อดีที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หากต้องการวัดความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนด ควรเลือกใช้ KPI และหากต้องการเครื่องมือที่ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน และเกิดการเรียนรู้จากความสำเร็จหรือความล้มเหลว เพื่อปรับแผนการทำงานตลอดเวลา ควรเลือกใช้ OKR เป็นต้น สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ขององค์กร
สรุปความสำคัญของ OKR vs KPI
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า OKR และ KPI เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการบริหารองค์กร ซึ่งการเลือกใช้งานของ OKR และ KPI นั้น มักขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และบริบทขององค์กร
28/08/2023 10687 views
HR Knowledge