เรื่องราวที่พบเจอไม่ว่าจะง่ายหรือยาก หนักหรือเบานั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ แต่ขึ้นอยู่กับ "ความคิด" ของเราเอง การจัดการความคิดจึงเป็นที่เรื่องสำคัญ

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ความคิด เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอารมณ์

รู้ไหมว่าความสุข ความเศร้า ความโกรธ หรือแม้แต่ความผิดหวัง ล้วนมี "ความคิด" เป็นจุดเริ่มต้นของอารมณ์ทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่เราคิด คือ สิ่งที่แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึก หากเราจัดการความคิดได้ก็จะสามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้เช่นกัน

น้ำหนักของปัญหา ขึ้นอยู่กับความคิดของเรา

ปัญหาหนักหรือเบาไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่อยู่ที่มุมมองและความคิดของเราเป็นหลัก บางเรื่องอาจไม่ใหญ่นัก แต่เมื่อคิดซ้ำ คิดวน คิดลบ มันก็กลายเป็นภาระที่แบกไม่ไหว ในทางกลับกันเรื่องใหญ่ก็อาจเบาลงได้ หากเราคิดอย่างมีสติ ยอมรับ และมองหาทางออกอย่างเข้าใจ ความคิด คือ สิ่งที่เติมน้ำหนักให้กับปัญหาหรือผ่อนน้ำหนักให้มันเบาลง เราอาจควบคุมสถานการณ์ไม่ได้เสมอ แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะคิดอย่างไร และจะปล่อยวางตอนไหน เมื่อควบคุมความคิดได้ ปัญหาที่กำลังรับมืออยู่ก็ไม่ใหญ่เกินไปอย่างที่เคยรู้สึก

แนวทางการจัดการความคิด ให้ชีวิตง่ายขึ้น

แน่นอนว่าในแต่ละวันเราจะต้องเผชิญกับความคิดที่มากมาย ทั้งความคิดที่เราตั้งใจ หรือความคิดที่เราไม่ได้ตั้งใจก็ตาม และความคิดต่าง ๆ เหล่านี้มักจะพันกันยุ่งเหยิงในสมองของเรา ซึ่งบางวันอาจพบกับเรื่องยากที่เราต้องจัดการจนอาจกลายเป็นความเครียดได้ในที่สุด ดังนั้นเพื่อให้จบทุกปัญหาความคิดที่จะนำไปสู่ความเครียด เราต้องเรียนรู้ที่จะจัดการกับมัน และนี่คือแนวทางการจัดการความคิดที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

สังเกตความคิดตัวเอง

เมื่อเกิดความคิดขึ้นไม่ว่าความคิดนั้นจะเป็นความคิดในรูปแบบใดก็ตาม เราต้องสังเกตความคิดของตัวเอง หรืออาจตั้งคำถามว่า “ตอนนี้ฉันคิดอะไรอยู่” ในขั้นนี้อาจเป็นการสังเกตเบื้องต้นและยังไม่ตัดสินว่าความคิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความคิดบวกหรือความคิดลบ เพียงให้รู้ว่าขณะนี้ “คิดอะไรอยู่” เท่านั้น

พิจารณาความคิดที่เกิดขึ้น

เมื่อเราตอบคำถามตัวเองได้แล้วว่าขณะนี้เราคิดอะไรอยู่ ก็จะสามารถพิจารณาได้ว่า ความคิดนั้นเกิดขึ้นจากอะไร เป็นเรื่องจริงหรือแค่สิ่งที่เรากำลังจินตนาการไปเอง ซึ่งการพิจารณานี้จะช่วยให้เรามีสติกับการแยกแยะความคิดของเราได้อย่างเป็นระบบ ลดความฟุ้งซ่าน และไม่ปล่อยให้ความคิดของเราเตลิดไปจนกลายเป็นเรื่องที่เราคิดไปเอง

ทำความเข้าใจกับความคิดของตนเอง

เมื่อพิจารณาความคิดของตัวเองได้แล้ว ลำดับต่อมาเราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับความคิดที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจความคิดของตัวเองได้ ทั้งนี้ยังทำให้การจัดการกับความคิดเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นการเข้าใจความคิดของตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการรู้จักตัวตนที่แท้จริงเพราะความคิดคือรากฐานของอารมณ์ การตัดสินใจ และพฤติกรรม ยิ่งเราเข้าใจความคิดมากเท่าไร ชีวิตเราก็ง่ายขึ้นเท่านั้น

เขียนความคิดออกมา

ไม่ว่าตอนนี้กำลังรับมือกับความคิดในรูปแบบใด สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการระบายสิ่งนั้นออกมา ซึ่งการเขียนความคิดของตัวเองลงไปบนกระดาษเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในการจัดการความคิดของตัวเองได้ การถ่ายทอดความคิดของเราออกมาในรูปแบบของลายลักษณ์อักษร จะช่วยให้ทำความเข้าใจความคิดและเข้าใจตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการจัดการปัญหา ง่ายต่อการจัดการอารมณ์ความรู้สึก ด้วยการเข้าใจตนเอง

ฝึกการคิดบวกอย่างมีเหตุผล

การคิดบวกไม่ใช่แค่การมองโลกในแง่ดีเพียงอย่างเดียว แต่คือการเลือกมองหาด้านดีและโอกาสในทุกสถานการณ์อย่างสมดุล การคิดบวก คือ การยอมรับความจริงทั้งด้านดีและด้านลบ เมื่อฝึกคิดบวกอย่างมีเหตุผล เราจะไม่ถูกความกังวลหรือความกลัวครอบงำ แต่กลับกลายเป็นคนที่พร้อมเผชิญปัญหา ด้วยทัศนคติที่สร้างสรรค์และมั่นคง สิ่งนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น ทุกปัญหาจะผ่านไปได้ด้วยการจัดการความคิดของตัวเราเอง จบที่เราจะเบาที่สุดชีวิตก็จะง่ายขึ้นนั่นเอง

Tips! อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคิดบวกหรือ Positive Thinking ที่นี่ >> Positive Thinking พลังแห่งการคิดบวกที่เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น

สรุป! จบที่เราเบาที่สุด จัดการความคิดให้ได้เพื่อชีวิตที่ง่ายขึ้น

ทุกสภาวะทางอารมณ์เกิดจากความคิดที่เราสร้างขึ้น น้ำหนักของปัญหาขึ้นอยู่กับมุมมองและวิธีคิดของเราเอง เมื่อเราจัดการความคิดได้ด้วยสติและความเข้าใจ จะช่วยให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวันง่ายขึ้น แม้สถานการณ์จะควบคุมไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะปล่อยวางหรือจัดการกับความคิดได้ เมื่อเป็นแบบนี้ปัญหาก็จะไม่ใหญ่เกินกว่าจะรับมือ โดยแนวทางในการจัดการความคิดง่าย ๆ ได้แก่ สังเกตความคิดตัวเอง พิจารณาความคิดที่เกิดขึ้น ทำความเข้าใจกับความคิดของตนเอง เขียนความคิดออกมา และฝึกการคิดบวกอย่างมีเหตุผล