เมื่อลูกจ้างทำงานหรือทรัพย์สินของบริษัทเสียหาย ต้องชดเชยอย่างไร สามารถหักเงินได้เลยไหม บทความนี้จะมาบอกว่าทำยังไงถึงจะถูกต้องตามหลักกฎหมายแรงงาน

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ลูกจ้างทำงานเสียหาย หักเงินได้ไหม?

ตามกฎหมายกำหนดให้นายจ้างสามารถหักเงินจากลูกจ้างได้ในกรณีที่จำเป็นและชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ซึ่งในกรณีการหักค่าจ้างเพื่อชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการกระทำของลูกจ้าง ซึ่งเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง นายจ้างสามารถดำเนินการหักค่าจ้างได้ตามมาตรา 76(4) ทั้งนี้ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง โดยความยินยอมดังกล่าวต้องจัดทำเป็นหนังสือ ให้ลูกจ้างลงลายมือชื่อรับรอง หรือมีข้อตกลงที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะอย่างชัดเจน

ที่มา : กระทรวงแรงงาน

หักเงินลูกจ้าง กรณีก่อให้เกิดความเสียหาย มีเงื่อนไขอย่างไร?

ตามกฎหมายแรงงานมาตรา 76 (4) กำหนดให้นายจ้างสามารถหักค่าจ้างของลูกจ้างได้ กรณีที่ลูกจ้างก่อให้เกิดความเสียหาย โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง และต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างเป็นหนังสืออย่างชัดเจน โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

ความเสียหายต้องเกิดจากการกระทำโดยเจตนา

การที่นายจ้างจะเรียกให้ลูกจ้างชดใช้ค่าเสียหายหรือหักค่าจ้างได้นั้น ต้องเป็นกรณีที่ลูกจ้าง ตั้งใจทำให้เกิดความเสียหาย หรือละเลยหน้าที่อย่างรุนแรงจนก่อให้เกิดผลเสียเท่านั้น ไม่ใช่ความผิดพลาดเล็กน้อยที่อาจเกิดขึ้นได้ตามปกติของการทำงาน

ต้องมีหนังสือยินยอมจากลูกจ้าง

นายจ้างจะหักค่าจ้างลูกจ้างเพื่อชดใช้ค่าเสียหายต้องมีหนังสือยินยอมจากลูกจ้างที่ระบุไว้ชัดเจนว่า “ยินยอมให้หักค่าจ้าง” ในกรณีความเสียหายนั้นโดยตรง และการยินยอมต้องเป็นความสมัครใจของลูกจ้างในเหตุการณ์นั้น ๆ ไม่สามารถใช้ข้อตกลงที่ให้ยินยอมไว้ล่วงหน้าแบบเหมารวม หรือระบุไว้กว้าง ๆ ในสัญญาจ้างมาอ้างหักค่าจ้างได้ เพราะถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

หักเงินในจำนวนที่เหมาะสมตามความเสียหายจริง

นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้เฉพาะจำนวนเงินที่จำเป็นและตรงกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ไม่สามารถหักเกินจริง หักแบบเหมารวม หรือหักเป็นการลงโทษลูกจ้างได้ โดยต้องมีเหตุผลและหลักฐานประกอบความเสียหายอย่างชัดเจน เพื่อให้การหักค่าจ้างเป็นธรรมและไม่เอาเปรียบลูกจ้าง

หักเงินแบบไหนบ้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย?

ตามกฎหมายแล้วนายจ้างสามารถหักเงินลูกจ้างได้บางกรณี ซึ่งการหักเงินที่นายจ้างสามารถหักได้โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย มีดังนี้

การหักค่าเสียหายจากการกระทำของลูกจ้าง ซึ่งต้องมีหนังสือยินยอมชัดเจน
การหักเงินคืนบริษัท เช่น ค่าเครื่องแบบ ค่าตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน หรือค่าเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาจ้าง โดยลูกจ้างต้องยินยอมไว้เป็นลายลักษณ์อักษร
การหักภาษีหรือเงินที่กฎหมายกำหนดให้ชำระ
การหักเงินค่าสหภาพแรงงาน หรือชำระหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์
การหักเงินประกันหรือเงินสะสมตามข้อตกลงที่ลูกจ้างยินยอม
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวของลูกจ้างเอง เช่น ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ค่าธรรมเนียมบัตร ATM หรือค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินสิทธิ

สรุป ลูกจ้างทำงานเสียหาย หักเงินได้ไหม ผิดกฎหมายหรือเปล่า?

กรณีที่ลูกจ้างทำงานเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นจากความตั้งใจ และความประมาทเลินเล่อร้ายแรงของลูกจ้าง นายจ้างสามารถพิจารณาเพื่อหักค่าจ้างได้ โดยต้องมีเหตุผล และหักตามมูลค่าความเสียหายตามจริง ที่สำคัญคือต้องได้รับความยินยอมจากพนักงานเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้อง หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขเหล่านี้ การหักเงินอาจกลายเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานและสร้างความเสี่ยงทางกฎหมายให้นายจ้างได้