PageView Facebook
Published:  2025-09-01 425 views
HR Knowledge
มติครม. เลื่อนเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างไปอีก 1 ปี - blog image preview
Blog >มติครม. เลื่อนเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างไปอีก 1 ปี

อัปเดตล่าสุด คณะรัฐมนตรี ไฟเขียวร่างกฎหมายแรงงาน 3 ฉบับ มีมติเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างออกไปจากเดิมอีก 1 ปี


อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม


ว่าด้วยเรื่องการเลื่อนเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเลื่อนการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างออกไปอีก 1 ปี เพื่อบรรเทาผลกระทบและลดภาระทางการเงินของนายจ้างและลูกจ้างในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอน


สรุปสาระสำคัญของมติ ครม. เลื่อนจัดเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุด เกี่ยวกับการเลื่อนการจัดเก็บเงินสะสม-เงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้



เลื่อนเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

คณะรัฐมนตรี อนุมัติร่างกฎหมาย 3 ฉบับ เพื่อเลื่อนการเก็บเงินสะสม-เงินสมทบ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ซึ่งจากเดิมมีกำหนดเริ่มเก็บเงินเข้ากองทุน วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ปัจจุบันมีมติให้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2569

 

ครม.ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับ

จากการประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเลื่อนวันเริ่มใช้บังคับการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยมีการอนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้

 

  • ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง จาก “ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป” เป็น “วันที่ 1 ตุลาคม 2569 เป็นต้นไป”
  • ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง มีสาระสำคัญเป็นการเลื่อนระยะเวลาการจ่ายเงินสะสมและเงินสมทบเข้ากองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างออกไปเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2569 ให้สอดคล้องกับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง
  • ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงานหรือตาย ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม วันใช้บังคับกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการสงเคราะห์แก่ลูกจ้างในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงานหรือตาย พ.ศ. 2567 โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2569 เป็นต้นไปเพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง

 

อัตราเงินสะสม-เงินสมทบ

อัตราเงินสะสม-เงินสมทบยังคงเท่าเดิม คือ ในระยะ 5 ปีแรก ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2569 – 30 กันยายน 2574 ลูกจ้างและนายจ้าง ส่งเงินสบทบ-เงินสะสม ฝ่ายละ 0.25% ของค่าจ้าง และตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2574 เป็นต้นไป ลูกจ้างและนายจ้าง ส่งเงินสบทบ-เงินสะสม ฝ่ายละ 0.5% ของค่าจ้าง

 

เหตุผลที่ ครม. มีมติให้เลื่อน

ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีความไม่แน่นอน ทั้งผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การแข่งขันทางการค้า–ภาษี และความตึงเครียดจากความขัดแย้งภูมิภาค ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้เลื่อนกำหนดการเก็บเงินสะสม-เงินสมทบกองทุนลูกจ้างออกไป เพื่อบรรเทาภาวะทางการเงินของนายจ้างและลูกจ้าง


สรุป มติครม. เลื่อนเก็บเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างไปอีก 1 ปี

จากการประชุมคณะรัฐมนตรีล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้มีมติเลื่อนการจัดเก็บเงินสะสมและเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจากเดิมเริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2569 เพื่อบรรเทาผลกระทบและลดภาระทางการเงินของนายจ้างและลูกจ้าง

hms-helpful-shadow svg fileโปรแกรมเงินเดือน HumanSoft
ทดลองใช้ฟรี 30 วัน ครบทุกฟังก์ชัน
  • บริการขึ้นระบบ ฟรี
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้